จากโพสที่แล้วที่พูดถึงข้อดี-ข้อจำกัดในการทำงานที่บ้านหรือ Work from Home โพสนี้เราจะมาพูดถึง “10 How to Work from Home Efficient 10 วิธีทำงานที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหมายถึง งานหลักไม่เสียและยังมีเวลาเหลือพัฒนาตัวเองหรือทำงานอดิเรกตามที่ต้องการได้อีกด้วย
บทความนี้ได้แปลมาจากบทความ “10 Tips to Help You Be More Efficient Working From Home”
เมื่อต้องทำงานที่บ้าน แต่ก็ต้องให้คำนึงไว้เสมอว่า การทำงานที่บ้านก็เหมือนกับการทำงานที่ออฟฟิศ ซึ่งก็ควรจะเริ่มงานและเลิกงานให้ตรงกับเวลาปกติ ซึ่งถึงถ้าหากเราเริ้มงานและเริ่มงานได้ตรงตามเวลาปกติ จะทำให้เราสังเกตได้ว่า เรามีเวลาเหลือกมากขึ้น เพราะว่าเราไม่ต้องใช้เวลาในการเดินทาง ซึ่งทำให้เราสามารถมีเวลาเหลือเหลือเพียงพอที่จะทำงานอดิเรกหรือหาความรู้ในการพัฒนาตัวเองได้
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าหากการทำงานที่บ้าน สิ่งแวดล้อมต่างๆที่อยู่ที่บ้านสำหรับบางคนนั้น มีไว้เพื่อพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็น Netflix หรือหนังสือทีชอบ หรือมุมนอนมุมโปรด ซึ่งเรามักจะใช้เวลาหรือทำสิ่งเหล่านั้นเวลาที่เราอยู่บ้านเพื่อพักผ่อน แต่ในการทำงานที่บ้านในสถานการณ์เช่นนี้ เมื่อเราต้องทำงานท่ามกลางสิ่งแวดล้อมเหล่านั้น เราต้องแยกเวลาส่วนตัวและเวลาทำงานออกจากกัน โดยแบ่งเวลาในการทำงาน เราจะ Focus ที่เฉพาะเรื่องงานให้เหมือนเราอยู่ที่ออฟฟิศ และเวลาส่วนตัวเมื่อถึงเวลาเลิกงาน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องพยายามปรับตัว เพื่อว่าจะได้ไม่เสียงาน โดยเอาเวลาส่วนตัวมาใช้ในการทำงาน เช่น เปิดหนังหรือซีรีย์ดูระหว่างทำงานหรือ นอนกลางวันเวลาอยํู่บ้าน และไม่ให้เวลางานมากระทบกับเวลาส่วนตัวจนเกินไป เช่นแบ่งเวลาเลิกงงานที่ชัดเจน โดยตั้งเวลาในการทำงานไว้ และเมื่อถึงเวลาต้องละสายตาจากงานและ ผ่อนคลายบ้าง
วิธีการนี้ไม่ว่าจะทำงานที่ออฟฟิศหรือว่าทำงานที่บ้านก็เป็นวิธีที่สำคัญในการทำงาน เนื่องจากเราต้องรู้จักที่จะจัดลำดับความสำคัญของงานที่เราทำในแต่ละวัน ในแต่ละชิ้น เพื่อให้เราสามารถทำงานที่มีความสำคัญก่อน และหลังได้ตามระยะเวลาที่กำหนด โดยคำนึงจาก ระยะเวลากำหนดที่ต้องส่งงาน ความยากง่ายของงาน ที่ต้องทำ ซึ่งเมื่ออยู่บ้าน การสือสารระหว่างเพื่อร่วมงานหรือหัวหน้างานอาจจะน้อยลง จึงทำให้เราต้องมีการจัดลำดับความสำคัญของงานให่้ชัดเจน เพื่อว่าจะได้ไม่มีความผิดพลาดในการทำงานและการส่งงาน และยังเป็นการช่วยจัดระบบการทำงานในแต่ละวันให้มีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน
วางแผนช่วงเวลาพักในแต่ละวัน โดยปกติแล้มนุษย์เราสามารถมีสมาธิได้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้อย่างมากไม่เกิน 50 นาที – 80 นาที ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะฉะนั้น เราไม่สามารถที่จะจดจ่ออยู่กับงานใดงานหนึ่งได้นานจนเกินไป เพราะฉะนั้นเราจึงต้องมีการวางแผนการพักในแต่ละช่วงของการทำงาน ให้สมดุลกัน และให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจจะเป็นการตั้งเป้า ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงเช้าเราจะพักเบรก ระหว่างช่วงเช้า 15 นาที เพื่อพักสมองจากการทำงาน เช่นไปเข้าห้องน้ำ ชงกาแฟ หรือว่าให้อาหารปลา หรือทำอะไรที่เป็นการผ่อนคลายตัวเอง ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งเมื่อครบกำหนดแล้ว ก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม และจัดการเวลาพักเบรคของตัวเองให้แน่นอน และให้มั่นใจว่าติดประชุมสำคัญหรือว่าติดงานที่สำคัญ ควรจะให้ทำงานแต่ละช่วงให้เรียบร้อยก่อน จึงพักเบรกเพื่อให้งานสำเร็จเป็นชิ้นๆ ไป
การแต่งตัวก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ถึงแม้ว่าเราจะทำงานอยู่ที่บ้าน แต่การแต่งตัวให้เหมือนกับเราออกไปทำงานก็ช่วยให้เราสามารถแยกการทำงานที่บ้านได้ ซึ่งแตกต่างกับการแต่งตัวอยู่บ้าน ธรรมดาๆ ทั่วไป ตรงที่จะทำให้เราเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมได้เสมอ และการแต่งตัวยังช่วยให้ เรารู้สึกสดชื่นเนื่องจากได้เปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดนอน ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น และแต่งตัวเหมือนไปทำงาน เพื่อจะได้รับความรู้สึกในการทำงานเหมือนกับการไปทำงานตามปกติ
การจัดพื้นที่การทำงานที่บ้านก็เป็นส่วนช่วยสำคัญในการทำงาน ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ที่เราจำเป็นที่จะต้องทำงานที่บ้าน ซึ่งเราจำเป็๋นต้องทำงานให้เหมือนกับอยู่ที่ออฟฟิศมากที่สุด ซึ่งการจัดโต๊ะทำงานใหม่ก็ยังเป็นส่วนช่วยให้การทำงานที่บ้านมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะเป็นการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมือนกับที่ออฟฟิศ และยังสร้างบรรยากาศในการทำงานได้มากขึ้นอีกด้วย
การทำงานที่บ้าน แตกต่างจากที่ออฟฟิศ เนื่องจากเราอาจจะมีสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ อาศัยรวมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่พี่น้องป้าน้าอา รวมไปถึงลูกๆ และหลานๆ ของเรา และในขณะที่เราทำงานเราอาจจะต้องใช้สมาธิในการทำงาน เราจัดพื้นที่หรือห้องเพื่อให้เราได้มีสมาธิและสามารถจดจ่ออยู่กับงานได้ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ และถ้าหากต้องมีประชุมสำคัญหรือว่าคุยงานกับหัวหน้า ก็ไม่ควรให้มีสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ เข้ามาขัดจังหวะในการพูดคุยที่สำคัญ จึงควรที่จะจัดพื้นที่ในการทำงานไม่ให้สมาชิกในครอบครัวเข้ามาขัดจังหวะในการทำงานได้
Source: BBC
การจัดเก็บห้องและพื้นที่ทำงานเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ ในการทำงานที่บ้าน สิ่งต่างๆ ในห้องทำงานที่เกี่ยวข้อง เราควรเป็นคนจัดการและจัดเก็บด้วยตัวเอง ซึ่งเอกสารต่างๆ ที่สำคัญไม่มีใครรู้ว่ามันสำคัญเท่าตัวเรา แตกต่างจากที่ออฟฟิศของเราที่เราทำงานด้วยกัน การทำงานแบบนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่ยังช่วยให้เรามีระเบียบวินัย และรักษาความสะอาดในพื้นที่ของตัวเองอีกด้วย และการจัดเก็บพื้นที่ให้เป็นระเบียบ ยังช่วยให้เราหาสิ่งของต่างๆ เจอได้ง่ายอีกด้วย
การทำงานที่บ้าน แตกต่างจากทำงานที่ออฟฟิศตรงที่เราจะได้อยู่แต่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ ในบ้าน ซึ่งอาจจะทำให้เราเบื่อหน่าย กับสิ่งเดิมๆ การหาแรงบันดาลใจก็ช่วยให้เราพ้นจากความเบื่อหน่ายนี้ได้ เช่น การฟัง Podcast ที่น่าสนใจ เป็นอาหารสมอง หรือว่าการอ่านหนังสือดีๆ ซักเล่ม หรือการฟังเพลงเพื่อการผ่อนคลายก็เป็นการช่วยบรรเทาความเบื่อหน่ายได้ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยเติมพลังสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานให้คุณเพิ่มขึ้นได้
สิ่งที่สำคัญในการทำงานที่สุดคือการสื่อสาร ซึ่งการทำงานที่บ้านอาจจะทำให้คุณไมได้เจอเพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง รวมไปถึงเจ้านาย ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ คุณยังจำเป็นต้องติดต่อกับพวกเขาอยู่เสมอ เพื่อให้การทำงานสะดุด และยังคงทำงานได้ต่อไปอย่างลืนไหล เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่เหมือนกับอยู่ออฟฟิศกัน
สรุป How to การทำงานที่มีประสิทธิภาพ ที่เอามาฝากกันวันนี้ ถ้าหากคุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ คุณจะสามารถทำงานที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนกับไปทำงานที่ออฟฟิศ หรืออาจจะดีกว่าด้วย เพราะว่าคุณสามารถมีเวลาที่มากขึ้นได้ เนื่องจากลดเวลาการเดินทางซึ่งทำให้คุณมีเวลาเหลือให้กับตัวเองมากขึ้น
application สำหรับพนักงานบันทึกเวลาเข้าออก ระบบลาออนไลน์ และบันทึกการทำงานในแต่ละวัน